ในอุตสาหกรรมเกษตรกรรมของบราซิล การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนโยบายด้านอาหารได้เร่งให้เกษตรกรต้องพึ่งพาปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DAP (Diammonium Phosphate) หรือฟอสเฟตแอมโมเนียมสองเท่าที่ผ่านกระบวนการแยกไอออนแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในปุ๋ยเคมีที่มีความเข้มข้นของไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูงที่สุดในตลาดโลก
พารามิเตอร์ | ค่ามาตรฐาน |
---|---|
N (% ตามน้ำหนัก) | 18% |
P₂O₅ (% ตามน้ำหนัก) | 46% |
ความชื้น (Max.) | ≤ 1.5% |
ความสามารถในการละลายในน้ำ | > 95% |
จากข้อมูลของ FAO พบว่า ปุ๋ย DAP มีอัตราการดูดซับโดยตรงของพืชสูงถึง 85–90% เมื่อเปรียบเทียบกับปุ๋ยชนิดอื่น เช่น MAP หรือ NP ก่อนหน้า — หมายความว่าเกษตรกรสามารถลดปริมาณการใช้ได้มากกว่า 15% ในขณะที่ยังคงผลผลิตไม่เสียหาย
ในเวียดนาม ปุ๋ย DAP ถูกใช้ในพื้นที่นาข้าวขนาดใหญ่กว่า 1.2 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตเฉลี่ย 18–22% ภายใน 2 ฤดูเก็บเกี่ยวแรก ขณะที่ในเกาหลีใต้ ระบบเกษตรแบบไร้ดิน (hydroponics) ใช้ DAP เป็นแหล่งฟอสฟอรัสหลัก เนื่องจากมีความสามารถในการควบคุม pH และไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ
บราซิลมีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 80 ล้านเฮกตาร์ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกลางที่เหมาะกับการปลูกข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืชที่ต้องการไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในอัตราส่วนที่สมดุล รายงานจาก IFA (International Fertilizer Association) ระบุว่า ตลาดปุ๋ย DAP ในบราซิลจะเติบโตเฉลี่ย 7.3% ต่อปีระหว่างปี 2024–2030
“ในอุตสาหกรรมเกษตรของบราซิล ปุ๋ย DAP ไม่ใช่แค่ ‘ตัวเลือก’ แต่คือ ‘กลยุทธ์การลงทุน’ เพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน” – ดร. โรเบิร์ต อัลวาเรซ, ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการพืช มหาวิทยาลัยเซาเปาโล
การส่งเสริมแบรนด์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะ 78% ของผู้ประกอบการเกษตรในบราซิลใช้เว็บไซต์เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลปุ๋ยและบริการสนับสนุนทางเทคนิค (ข้อมูลจาก Nielsen Brazil 2023)
หากคุณกำลังมองหาโซลูชันสำหรับการเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืนในภาคเกษตรของบราซิล — ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าวโพด ถั่วเหลือง หรือพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ — DAP คือคำตอบที่มีฐานข้อมูลและประสบการณ์จริงรองรับจากทั่วโลก