DAP ปุ๋ยฟอสเฟตที่มีประสิทธิภาพสูงในภาคการเกษตรเวียดนาม: เพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน

การใช้งานฟอสเฟตแอมโมเนียมที่ไม่มีไอออน (DAP) ในภาคเกษตรกรรมเวียดนาม: ประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิต

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราการใช้ DAP ในภาคเกษตรเวียดนามเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.3% ต่อปี โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกข้าว ข้าวโพด และมะพร้าว ซึ่งเป็นพืชที่ต้องการไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในอัตราสมดุลสูง

คุณสมบัติทางเทคนิคของ DAP ที่ทำให้โดดเด่น

สารละลาย DAP มีสูตรเคมี (NH₄H₂PO₄) ที่มีไนโตรเจน (N) 18% และฟอสฟอรัส (P₂O₅) 46% — ซึ่งสูงกว่าฟอสเฟตชนิดอื่นๆ เช่น MAP (Monoammonium Phosphate) ที่มี N 11% และ P₂O₅ 52% อย่างเห็นได้ชัด

แนวโน้มตลาดปุ๋ยในเวียดนาม: ความต้องการปุ๋ยประสิทธิภาพสูง

ตามรายงานจากกรมพัฒนาเกษตรกรเวียดนาม (2023) ปัจจุบันมีมากกว่า 65% ของเกษตรกรในภาคเหนือและกลางเลือกใช้ DAP เป็นปุ๋ยหลัก เพราะสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยรวมลงได้ถึง 15–20% โดยยังคงผลผลิตเท่าเดิม หรือแม้แต่เพิ่มขึ้น

กรณีศึกษา: การใช้ DAP ในการปลูกข้าวในจังหวัดเต่าเหมิน

เกษตรกร 120 คนในพื้นที่ทดลองใช้ DAP แทนปุ๋ย Urea + TSP พบว่าผลผลิตข้าวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13.6% จาก 4.8 ตัน/ไร่ เป็น 5.4 ตัน/ไร่ โดยไม่เพิ่มต้นทุนการผลิต แต่ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งและแรงงานจากการผสมปุ๋ยเอง

เปรียบเทียบ DAP กับปุ๋ยอื่น: ทำไมจึงเหมาะกับเวียดนาม?

DAP มีข้อได้เปรียบสำคัญในสภาพดินและอากาศของเวียดนาม เช่น ดินเป็นกรดบางส่วน ซึ่ง DAP ช่วยควบคุม pH ได้ดีกว่า Urea และมีความสามารถในการละลายเร็วในน้ำ ทำให้พืชดูดซึมได้ทันทีหลังการใส่ปุ๋ย

โอกาสในอนาคต: การขยายตลาดและการสนับสนุนจากรัฐ

รัฐบาลเวียดนามมีแผนสนับสนุนการใช้ปุ๋ยแบบยั่งยืนจนถึงปี 2030 โดยคาดว่า DAP จะกลายเป็นปุ๋ยหลักใน 70% ของพื้นที่ปลูกข้าว ซึ่งหมายถึงโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกอย่างมาก